แม้ว่านักเตะหนุ่มจากโอลด์แฮม จะไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงในทีมได้ แต่แฟนๆ ก็ยังคงรู้ดีว่าถ้าไม่ใช่เพราะนักเตะคนนี้ ตำนานความยิ่งใหญ่ของผู้จัดการที่ชื่อ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คงไม่มีทางเกิดขึ้น
ฤดูกาล 1989-90 เป็นช่วงวิกฤตในชีวิตผู้จัดการทีมของเซอร์ อเล็กซ์ หลังจากช่วงปิดฤดูกาลได้ใช้เงินมากมายทุ่มซื้อตัวผู้เล่นอย่าง แกรี่ พัลลิสเตอร์, พอล อินซ์ และแดนนี่ วัลเลซ แต่ทีมยังไม่มีวี่แววในการพัฒนาจากอันดับ 11 เมื่อฤดูกาลก่อน และยังดูเหมือนจะแย่กว่าเดิม จนกระทั่งถึงเดือนมกราคม
ถ้วยสำคัญอย่างเอฟเอ คัพ ก็กลายเป็นจุดชี้ชะตา เมื่อทีมต้องโคจรมาพบกับทีม “เจ้าป่า” นอตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ในรอบที่สาม ถือเป็นฟางเส้นสุดท้ายสำหรับเฟอร์กูสัน
และเด็กหนุ่มมาร์ค โรบินส์ ก็กลายมาเป็นฮีโร่ในช่วงจังหวะและเวลาสำคัญ หลังจากทีมต้องประสบปัญหาอาการบาดเจ็บ ทำให้นักเตะหนุ่มซึ่งเคยลงประเดิมสนามในทีมชุดใหญ่เพียงสองเกมก่อนหน้านี้ได้ลงเล่น และเป็นผู้ยิงประตูชัยให้ทีมชนะไป 1 – 0 คลายความกดดันทั้งมวลที่มีอยู่ไปได้อีกเฮือก
และด้วยประตูนี้เอง ที่ช่วยจุดประกายให้ทีมสามารถก้าวเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศที่เวมบลีย์ และชัยชนะในรอบชิงชนะเลิศนัดรีเพลย์เหนือคริสตัล พาเลซ ก็เป็นการคว้าแชมป์แรกของเซอร์ อเล็กซ์ ซึ่งก็ช่วยต่ออายุให้ผู้จัดการทีมที่ต่อมากลายเป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์ของสโมสร
เฟอร์กูสันไม่มีวันลืมแมตช์แห่งความทรงจำกับฟอเรสต์ เขาพูดถึงมันว่า “ทุกคนต่างคิดว่าเราจะแพ้ แม้แต่จิมมี่ ฮิลล์ ก็บอกว่าเราดูเหมือนทีมที่พ่ายแพ้ไปแล้วตั้งแต่ตอนวอร์มอัพ เราขาดผู้เล่นตัวจริงอย่าง (นีล) เวบบ์, (ไบรอัน) รอบสัน และ (พอล) อินซ์ แต่ผู้เล่นที่ผมเลือกก็ทำผลงานได้สุดยอด พวกเขาลงไปเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมในสนามและสมควรได้รับชัยชนะ 1 – 0 จากลูกยิงของมาร์ค โรบินส์ บรรยากาศในห้องแต่งตัวดีขึ้นมาก บอร์ดบริหารก็เข้ามาแสดงความยินดีกับผม หลังจากมีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับตำแหน่งของผมจากผลงานที่ย่ำแย่ในลีก”
โรบินส์ เด็กหนุ่มจากโอลด์แฮม ซึ่งเข้าร่วมทีมยูไนเต็ด ตั้งชุดนักเรียน ยังยิงประตูพาทีมเข้าสู่รอบต่อไปของเอฟเอ คัพ อีกในรอบห้าที่เจอกับนิวคาสเซิ่ล และอยู่ในทีมที่เอาชนะโอลด์แฮม แอธเลติคในรอบรองชนะเลิศนัดรีเพลย์
นอกจากนั้นเขายังลงเป็นตัวสำรองในรอบชิงชนะเลิศที่เสมอกับคริสตัล พาเลซ ไปดุเดือด 3 – 3 แต่ไม่มีชื่ออยู่ในทีมในนัดรีเพลย์ที่ทีมเฉือนชนะไป 1 – 0
แม้ว่าโรบินส์จะเป็นนักล่าประตูโดยธรรมชาติ อย่างที่แสดงให้เห็นกับทีมชาติอังกฤษทั้งชุดเยาวชน และ U-21 แต่เขาก็ไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงในทีมชุดใหญ่ได้ และขอย้ายทีมในปี 1992 และเป็นทีมนอริช ซิตี้ รับช่วงต่อไปใช้งานด้วยค่าตัว 800,000 ปอนด์
มาร์ค ยังได้ไปเล่นให้อีกหลายสโมสร เช่นเลสเตอร์ ซิตี้, เอฟซี โคเปนเฮเกน ในเดนมาร์ก, เรดดิ้ง, โอเรนส์ ในสเปน, พานิโอนิออส ในกรีซ , แมน ซิตี้ ในแบบยืมตัว, วอลซอลล์ และรอตเธอร์แฮม ซึ่งก็ทำประตูอยู่ได้เรื่อยๆ จนแขวนสตั้ด
โรบินส์ ประเดิมสนามนัดแรก วันที่ 12 ตุลาคม 1988 ในลีกคัพ รอบสอง นัดที่สอง พบกับแอสตัน วิลล่า ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด โดยลงเป็นตัวสำรอง ในแมตช์ที่แมนฯ ยูไนเต็ด ถล่มไป 5 – 0
สถิติ ลงเล่นให้แมนฯ ยูไนเต็ด ทั้งหมด 27 (+สำรอง 42) นัด ทำไปได้ 17 ประตู
Eric the King
2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC