ภาพการแข่งขัน | วีดีโอคลิป
สนาม เดอะ คัสซัม, อังกฤษ
รายการ ปรีซีซั่น
เวลา 01.45 น. วันพุธที่ 9 สิงหาคม 2549
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำ 2 ประตูในการกลับมาคืนสนามของเขาซึ่งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บดเอาชนะอ็อกซ์ฟอร์ด ยูไนเต็ด ทีมจากคอนเฟอเรนซ์ไปได้ 4-1 ที่สนามคัสซัม สเตเดี้ยม เมื่อวันอังคาร
ปีกชาวโปรตุเกสเจอกับเสียงโห่ของแฟนบอลเจ้าถิ่นทันทีตั้งแต่ได้บอลครั้งแรก เนื่องจากเขาถูกมองว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการทำให้เวย์น รูนี่ย์ ถูกไล่ออกจากสนามในฟุตบอลโลก แต่ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้กังวลกับการก่อกวนที่พุ่งเป้าไปหาเขา แม้ว่าเขาจะคาดการณ์ได้ว่าจะมีเสียงโห่ที่มากขึ้นอีกเมื่อฤดูกาลที่แท้จริงจะเริ่มต้นขึ้นในอีก 12 วัน
นักเตะที่ลงเล่นในฟุตบอลโลกอีก 3 คนได้แก่ มิเกล ซิลแวสตร์, หลุยส์ ซาฮา (ฝรั่งเศสทั้งคู่) และกาเบรียล ไฮน์เซ่ (อาร์เจนติน่า) ก็ได้ลงเล่นในนัดนี้เพื่อเรียกความฟิตก่อนเปิดฤดูกาลใหม่
ในตอนแรกนัดนี้ถูกจัดให้เป็นเกมอุ่นเครื่องของทีมสำรอง แต่แล้วก็ถูกเพิ่มเข้าในรายการอุ่นเครื่องที่มากมายอยู่แล้วของทีมชุดใหญ่ และน่าจะเป็นนัดที่แมนฯ ยูไนเต็ด ทำได้ดีที่สุดในช่วงอุ่นเครื่องหลังจากไล่ถล่มทีมของจิม สมิธ ไปอย่างสบาย
เบน ฟอสเตอร์ ได้ลงเล่นเป็นผู้รักษาประตูในนัดนี้ จอห์น โอเชีย เป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟคู่กับมิเกล ซิลแวสตร์ โดยมีฟิลลิป บาร์ดสลี่ย์ และกาเบรียล ไฮน์เซ่ เป็นแบ็คขวาและแบ็คซ้าย
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กลับมาลงสนามในตำแหน่งปีกขวา ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ เป็นมิดฟิลด์ตัวกลางร่วมกับเดวิด โจนส์ โดยมีคีแรน ริชาร์ดสัน เป็นปีกซ้าย ในขณะที่คู่ศูนย์หน้าเป็นโอเล่ กุนน่าร์ โซลชาร์ และหลุยส์ ซาฮา
กองเชียร์เข้ามาในสนามคัสซัม สเตเดี้ยม เกือบเต็มความจุ 12,000 ที่นั่งเมื่อเกมเริ่มต้นขึ้น แฟนบอลเจ้าถิ่นส่งเสียงอย่างเต็มที่และมีกำลังใจดี พวกเขาคาดหวังกับทีมพอสมควรเมื่อเกมดำเนินไป แต่ผ่านไปไม่นานก็ต้องเงียบเสียงลงเมื่อแมนฯ ยูไนเต็ด ทำประตูขึ้นนำได้ก่อนตั้งแต่ต้นเกม
ไฮน์เซ่ เปิดบอลจากฝั่งซ้ายเข้าไปในกรอบเขตโทษ โรนัลโด้ วิ่งเติมขึ้นมาก่อนที่จะพักอกส่งบอลต่อให้โซลชาร์ บริเวณเส้นกรอบเขตโทษ ดาวยิงชาวนอร์เวย์ไม่รอช้าวอลเล่ย์ด้วยเท้าขวาในจังหวะแรกทันที บอลลอยโค้งตกลงมามุดใต้คานเสียบมุมเข้าประตูไปอย่างเหนือชั้น เป็นประตูที่ 5 ของโซลชาร์ ในช่วงปรีซีซั่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 6
อีก 8 นาทีต่อมา แมนฯ ยูไนเต็ด ก็มาได้ประตูที่ 2 คราวนี้เป็นบาร์ดสลี่ย์ เปิดบอลจากฝั่งขวาเข้าไปในกรอบเขตโทษ โซลชาร์ วิ่งข้ามบอลปล่อยให้ซาฮา แตะบอลคืนมาให้กับโรนัลโด้ ที่หน้ากรอบเขตโทษ ปีกจอมสับซัดเต็มข้อด้วยเท้าขวา บอลลอยเสียบหน้าต่างที่เสาไกลเข้าประตูไปอย่างงดงาม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นำห่างออกไปเป็น 2-0 ในนาทีที่ 14
เสียงโห่หายเงียบไปอย่างน้อยก็เป็นเวลาชั่วคราว แมนฯ ยูไนเต็ด ครองเกมไว้ได้หมด อีก 2 นาทีต่อมาเกมก็ขาดลอยอย่างสิ้นเชิงเมื่อปิศาจแดง มาทำประตูเพิ่มได้อีก เฟล็ตเชอร์ ได้บอลทางฝั่งซ้ายแล้วพาบอลหลบกองหลังของอ็อกซ์ฟอร์ด ตัดเข้ามาหน้ากรอบเขตโทษก่อนที่จะยิงไกลด้วยเท้าขวา บอลพุ่งเสียบมุมขวาอย่างสุดสวยชนิดที่บิล เทอร์ลี่ย์ ผู้รักษาประตูของอ็อกซ์ฟอร์ด หมดสิทธิ์ป้องกัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำเป็น 3-0 ในนาทีที่ 16
แฟนบอลเจ้าถิ่นยังคงส่งเสียงโห่ทุกครั้งที๋โรนัลโด้ ได้บอล และพวกเขาก็ได้ส่งเสียงอย่างเต็มที่ในนาทีที่ 27 เมื่ออ็อกซ์ฟอร์ด ทำประตูตีไข่แตกได้ แอนดี้ เบอร์เจสส์ เปิดบอลจากปีกซ้ายเข้ากลางให้กับร็อบ ดัฟฟี่ กระโดดขึ้นโหม่งเต็มหัวผ่านมือฟอสเตอร์ เข้าไปตุงตาข่าย อ็อกซ์ฟอร์ด ไล่มาเป็น 1-3 ในนาทีที่ 27
อ็อกซ์ฟอร์ด พยายามต่อสู้อย่างเต็มที่ในช่วงท้ายครึ่งแรกและหากมีโชคมากกว่านี้พวกเขาก็น่าจะได้เพิ่มอีกซักประตูเป็นอย่างน้อย ทั้งดัฟฟี่ และเอ็ดดี้ ฮัตชินสัน ได้โอกาสทำประตูก่อนที่จะจบครึ่งเวลาแรกไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกมานำอ็อกซ์ฟอร์ด ยูไนเต็ด 3-1
เซอร์ อเล็กซ์ กล่าวก่อนเกมว่านักเตะที่ลงเล่นในฟุตบอลโลก 4 คนอาจจะมีบางคนได้ลงเล่นครบ 90 นาที และพวกเขาก็เดินออกมาจากอุโมงค์เพื่อลงเล่นต่อในครึ่งเวลาหลัง อย่างไรก็ตาม โอเชีย ถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงพักครึ่งโดยให้โจนาธาน อีแวนส์ กองหลังดาวรุ่งฟอร์มเยี่ยมลงเล่นแทน
เบอร์เจสส์ ของอ็อกซ์ฟอร์ด ทำผลงานได้ดีในครึ่งแรกและยังคงทำได้ดีต่อไปในครึ่งหลัง เขาได้โอกาสยิงทดสอบฟอสเตอร์ หลายครั้งแต่ยังไม่เป็นผล เจ้าถิ่นทำเกมได้ดีขึ้นกว่าในช่วง 45 นาทีแรก
แมนฯ ยูไนเต็ด ทำการเปลี่ยนตัวในนาทีที่ 58 เมื่อไฮน์เซ่ และริชาร์ดสัน ถูกเปลี่ยนตัวออกให้แดนนี่ ซิมป์สัน และลี มาร์ติน ลงเล่นแทน
อีก 1 นาทีต่อมา ปิศาจแดง ก็มาได้ประตูเพิ่ม โจนส์ ไหลบอลทะลุช่องให้โรนัลโด้ ที่วิ่งสอดขึ้นมาหน้ากรอบเขตโทษได้ยิงปั่นโค้งด้วยเท้าขวา บอลเสียบมุมประตูเข้าไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นำห่างออกไปอีกครั้งเป็น 4-1 ในนาทีที่ 59
โรนัลโด้ ถูกเปลี่ยนตัวออกพร้อมกับฟอสเตอร์ และโซลชาร์ ในนาทีที่ 72 เขาเดินออกจากสนามพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง แม้ว่าจะถูกแฟนบอลเจ้าถิ่นโห่ใส่แต่กองเชียร์ปิศาจแดง ก็ลุกขึ้นยืนปรบมือให้กับเขา แม้กระทั่งจิม สมิธ ผู้จัดการทีมอ็อกซ์ฟอร์ด ก็เดินมาจับมือด้วยเมื่อเขาเดินออกมาที่เส้นข้างสนาม โดยคนที่ลงสนามแทนคือจูเซ็ปเป้ รอสซี่, ทอม ฮีตั้น และเลียม มิลเลอร์
หลังจากนั้น ไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มได้อีก หมดเวลาการแข่งขัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกมาเอาชนะอ็อกซ์ฟอร์ด ยูไนเต็ด 4-1
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
อ็อกซ์ฟอร์ด ยูไนเต็ด เทอร์ลี่ย์ (ทาร์ดิฟ น. 46); อาแนคเล็ต, เดย์, ควินน์, กิลคริสต์ (วิลล์ม็อต น. 46), จอห์นสัน (ลามีน น. 78); เดมสเตอร์, ฮัตชินสัน, แพตเตเฟอร์ (ฮาร์กรีฟส์ น. 61); ดัฟฟี่ (บาแชม น. 61), เบอร์เจสส์ (โอดูบาเด้ น. 78)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เบน ฟอสเตอร์ (ทอม ฮีตั้น น. 72); ฟิลลิป บาร์ดสลี่ย์, จอห์น โอเชีย (โจนาธาน อีแวนส์ น. 46), มิเกล ซิลแวสตร์, กาเบรียล ไฮน์เซ่ (แดนนี่ ซิมป์สัน น. 58); คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (จูเซ็ปเป้ รอสซี่ น. 72), ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์, เดวิด โจนส์, คีแรน ริชาร์ดสัน (ลี มาร์ติน น. 58); โอเล่ กุนน่าร์ โซลชาร์ (เลียม มิลเลอร์ น. 72), หลุยส์ ซาฮา
หมายเหตุ : นัดแรกของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในการคุมทีมแมนฯ ยูไนเต็ด ลงเล่นคือการไปเยือนอ็อกซ์ฟอร์ด ที่สนามมานอร์ กราวนด์ เมื่อวันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน 1986 แต่เขาคงไม่อยากจดจำผลการแข่งขันเท่าใดนักเพราะอ็อกซ์ฟอร์ด เป็นฝ่ายชนะไป 2-0
DaKinG